" เหตุผลของการมีความรัก "
ทำไมคนเราต้องมีความรัก
ก็เพราะว่าเราทุกคนล้วนมีหัวใจ
ทำไมคนเราจึงต้องโหยหาความรักอยู่ตลอดเวลา
ก็เพราะเราต้องการใครสักคนมาช่วยเราดูแลหัวใจของเรา
ทำไมคนเราถึงไม่เคยพอกับความรัก
ก็เพราะว่าเราไม่ได้เกิดมาเพื่อรักใครคนเดียว
ทำไมคนบางคนถึงไม่เคยพบกับความรักสักที
ก็เพราะว่าเขาไม่เคยเปิดใจตัวเองให้ใคร
ทำไมคนบางคนไม่เคยเปิดใจตัวเองให้ใคร
ก็เพราะว่าเขาอาจจะกำลังรอใครสักคนอยู่
ทำไมคนบางคนถึงต้องอกหักอยู่บ่อย
ก็เพราะว่าเขาปล่อยใจตัวเองตกหลุมรักอยู่ตลอดเวลา
ไม่ต้องเสียใจที่เขาไม่รักเรา
เพราะเราและเขาอาจจะไม่ได้เกิดมาเพื่อรักกัน
ทำไมคนบางคนไม่เคยสมหวังกับความรัก
ก็เพราะว่าเขาอาจจะยังไม่เจอคู่แท้ของเขา
ทำไมคนบางคนยังไม่พบคู่แท้ของเขา
ก็เพราะว่าเขาอาจจะไม่เคยตามหาเลยก็ได้
ทำไมเราควรจะทำตัวเราให้ดูดีอยู่ตลอดเวลา
ก็เพราะว่าเราไม่รู้ว่าจะได้เจอคนที่ถูกใจเมื่อไร
ไม่ต้องเสียใจที่เรายังไม่เจอคนที่เรารัก
เพราะว่าเมื่อเราเจอเขาคนนั้นเมื่อไร
เราจะรู้ว่ามันคุ้มค่ามากแค่ไหนกับเวลาที่เรารอคอย
จงทะนุถนอมหัวใจของเราไว้ให้ดี
เพราะว่าเมื่อเราเจอคนที่ใช่ จะได้มอบมันให้เขาด้วยความภูมิใจ
อย่าปล่อยให้โชคชะตาลิขิตชีวิตเราทั้งหมด
แต่จงใช้มันเป็นเครื่องนำทางในการดำเนินชีวิต
โชคชะตาสามารถทำให้เราพบคนที่ถูกใจ
แต่ตัวเราเองเท่านั้นที่สามารถทำให้เขาคนนั้นรักเราได้
วันอาทิตย์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2552
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ประวัติ ภาษา c
ประวัติภาษาซี
ภาษาซีเป็นภาษาที่ถือว่าเป็นทั้งภาษาระดับสูงและระดับต่ำ ถูกพัฒนาโดยเดนนิส ริดชี (Dennis ritche) แห่งห้องทดลองเบลล์ (Bell laboratories) ที่เมอร์รีฮิล มลรัฐนิวเจอร์ซี่ โดยเดนนิสได้ใช้หลักการของภาษา บีซีพีแอล (BCPL : Basic Combine Programming Language) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเคน ทอมสัน (Ken tomson) การออกแบบและพัฒนาภาษาซีของเดนนิส ริดชี มีจุดมุ่งหมายให้เป็นภาษาสำหรับใช้เขียนโปรแกรมปฏิบัติการระบบยูนิกซ์ และได้ตั้งชื่อว่า ซี (C) เพราะเห็นว่า ซี (C) เป็นตัวอักษรต่อจากบี (B) ของภาษา BCPL ภาษาซีถือว่าเป็นภาษาระดับสูงและภาษาระดับต่ำ ทั้งนี้เพราะ ภาษาซีมีวิธีใช้ข้อมูลและมีโครงสร้างการควบคุมการทำงานของโปรแกรมเป็นอย่างเดียวกับภาษาของโปรแกรมระดับสูงอื่นๆ จึงถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ในด้านที่ถือว่าภาษาซีเป็นภาษาระดับต่ำ เพราะภาษาซีมีวิธีการเข้าถึงในระดับต่ำที่สุดของฮาร์ดแวร์ ความสามารถทั้งสองด้านของภาษานี้เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ความสามารถระดับต่ำทำให้ภาษาซีสามารถใช้เฉพาะเครื่องได้ และความสามารถระดับสูง ทำให้ภาษาซีเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์ ภาษาซีสามารถสร้างรหัสภาษาเครื่องซึ่งตรงกับชนิดของข้อมูลนั้นได้เอง ทำให้โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซีที่เขียนบนเครื่องหนึ่ง สามารถนำไปใช้กับอีกเครื่องหนึ่งได้ ประกอบกับการใช้พอยน์เตอร์ในภาษาซี นับได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร
ภาษาซีเป็นภาษาที่มีลักษณะเด่นพอสรุปได้ดังนี้
- เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่มีการพัฒนาขึ้นใช้งานเพื่อเป็นภาษามาตรฐานที่ไม่ขึ้นกับโปรแกรมจัดระบบงานและไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์
- เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่อาศัยหลักการที่เรียกว่า "โปรแกรมโครงสร้าง" จึงเป็นภาษาที่เหมาะกับการพัฒนาโปรแกรมระบบ
- เป็นคอมไพเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ให้รหัสออบเจ็กต์สั้น ทำงานได้รวดเร็ว เหมาะกับงานที่ต้องการ ความรวดเร็วเป็นสำคัญ
- มีความคล่องตัวคล้ายภาษาแอสแซมบลี ภาษาซีสามารถเขียนแทนภาษาแอสแซมบลีได้ดี ค้นหาที่ผิดหรือ แก้โปรแกรมได้ง่าย ภาษาซีจึงเป็นภาษาระดับสูงที่ทำงานเหมือนภาษาระดับต่ำ
- มีความคล่องตัวที่จะประยุกต์เข้ากับงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี การพัฒนาโปรแกรม เช่น เวิร์ดโพรเซสซิ่ง สเปรดชีต ดาตาเบส ฯลฯ มักใช้ภาษาซีเป็นภาษาสำหรับการพัฒนา
- เป็นภาษาที่มีอยู่บนเกือบทุกโปรแกรมจัดระบบงาน มีในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 8 บิต ไปจนถึง 32 บิต เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ และเมนเฟรม
- เป็นภาษาที่รวมข้อดีเด่นในเรื่องการพัฒนา จนทำให้ป็นภาษาที่มีผู้สนใจมากมายที่จะเรียนรู้หลักการของภาษา และวิธีการเขียนโปรแกรม ตลอดจนการพัฒนางานบนภาษานี้
จุดเด่นของภาษา[*]เป็นภาษาที่มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นและระบบปฏิบัติการทุกชนิด ทำให้โครงสร้างทางภาษา ฟังก์ชั่นและไลบราลี (Library) ต่างๆ สามารถนำไปใช้ได้ทุกรุ่นและทุกระบบปฏิบัติการ[*]โปรแกรมที่เขียนออกมาจะมีขนาดเล็กและทำงานได้รวดเร็วเหมือนภาษาระดับต่ำ แต่เข้าใจง่ายเหมือนภาษาระดับสูง (ภาษาซีจัดอยู่ในภาษาระดับกลาง แต่หนังสือบางเล่มจะจัดภาษาซีอยู่ในภาษาระดับสูง แต่ผมว่าระดับกลางน่าจะเหมาะกว่า อิอิ)[*]มีโครงสร้างทางภาษาที่ดี และเครื่องหมายการดำเนินการ (Operators) มีประสิทธิภาพสูงและยืดหยุน (สังเกตุได้จาก x++,++x ที่งงกันไปพักนึง ฮ่าๆ)[*]ภาษา C สามารถเขียนเพื่อควบคุมฮาร์ดแวร์ได้ ซึ่งบางภาษามันทำไม่ได้เช่น ภาษา Basic[*]มีฟังก์ชั่นสำเร็จรูปไว้ให้เราใช้งานเยอะ!! ทำให้เราไม่ต้องเขียนเอง และหากว่า ฟังก์ชั่นที่มีมาให้มันไม่โดนใจ เราสามารถเขียนเองและเพิ่มเติมลงไปได้ หรืออาจจะแจกจ่ายให้เพื่อนๆ
ภาษาซีเป็นภาษาที่ถือว่าเป็นทั้งภาษาระดับสูงและระดับต่ำ ถูกพัฒนาโดยเดนนิส ริดชี (Dennis ritche) แห่งห้องทดลองเบลล์ (Bell laboratories) ที่เมอร์รีฮิล มลรัฐนิวเจอร์ซี่ โดยเดนนิสได้ใช้หลักการของภาษา บีซีพีแอล (BCPL : Basic Combine Programming Language) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยเคน ทอมสัน (Ken tomson) การออกแบบและพัฒนาภาษาซีของเดนนิส ริดชี มีจุดมุ่งหมายให้เป็นภาษาสำหรับใช้เขียนโปรแกรมปฏิบัติการระบบยูนิกซ์ และได้ตั้งชื่อว่า ซี (C) เพราะเห็นว่า ซี (C) เป็นตัวอักษรต่อจากบี (B) ของภาษา BCPL ภาษาซีถือว่าเป็นภาษาระดับสูงและภาษาระดับต่ำ ทั้งนี้เพราะ ภาษาซีมีวิธีใช้ข้อมูลและมีโครงสร้างการควบคุมการทำงานของโปรแกรมเป็นอย่างเดียวกับภาษาของโปรแกรมระดับสูงอื่นๆ จึงถือว่าเป็นภาษาระดับสูง ในด้านที่ถือว่าภาษาซีเป็นภาษาระดับต่ำ เพราะภาษาซีมีวิธีการเข้าถึงในระดับต่ำที่สุดของฮาร์ดแวร์ ความสามารถทั้งสองด้านของภาษานี้เป็นสิ่งที่เกื้อหนุนซึ่งกันและกัน ความสามารถระดับต่ำทำให้ภาษาซีสามารถใช้เฉพาะเครื่องได้ และความสามารถระดับสูง ทำให้ภาษาซีเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร์ ภาษาซีสามารถสร้างรหัสภาษาเครื่องซึ่งตรงกับชนิดของข้อมูลนั้นได้เอง ทำให้โปรแกรมที่เขียนด้วยภาษาซีที่เขียนบนเครื่องหนึ่ง สามารถนำไปใช้กับอีกเครื่องหนึ่งได้ ประกอบกับการใช้พอยน์เตอร์ในภาษาซี นับได้ว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของการเป็นอิสระจากฮาร์ดแวร
ภาษาซีเป็นภาษาที่มีลักษณะเด่นพอสรุปได้ดังนี้
- เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่มีการพัฒนาขึ้นใช้งานเพื่อเป็นภาษามาตรฐานที่ไม่ขึ้นกับโปรแกรมจัดระบบงานและไม่ขึ้นกับฮาร์ดแวร์
- เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่อาศัยหลักการที่เรียกว่า "โปรแกรมโครงสร้าง" จึงเป็นภาษาที่เหมาะกับการพัฒนาโปรแกรมระบบ
- เป็นคอมไพเลอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง ให้รหัสออบเจ็กต์สั้น ทำงานได้รวดเร็ว เหมาะกับงานที่ต้องการ ความรวดเร็วเป็นสำคัญ
- มีความคล่องตัวคล้ายภาษาแอสแซมบลี ภาษาซีสามารถเขียนแทนภาษาแอสแซมบลีได้ดี ค้นหาที่ผิดหรือ แก้โปรแกรมได้ง่าย ภาษาซีจึงเป็นภาษาระดับสูงที่ทำงานเหมือนภาษาระดับต่ำ
- มีความคล่องตัวที่จะประยุกต์เข้ากับงานต่างๆ ได้เป็นอย่างดี การพัฒนาโปรแกรม เช่น เวิร์ดโพรเซสซิ่ง สเปรดชีต ดาตาเบส ฯลฯ มักใช้ภาษาซีเป็นภาษาสำหรับการพัฒนา
- เป็นภาษาที่มีอยู่บนเกือบทุกโปรแกรมจัดระบบงาน มีในเครื่องไมโครคอมพิวเตอร์ตั้งแต่ 8 บิต ไปจนถึง 32 บิต เครื่องมินิคอมพิวเตอร์ และเมนเฟรม
- เป็นภาษาที่รวมข้อดีเด่นในเรื่องการพัฒนา จนทำให้ป็นภาษาที่มีผู้สนใจมากมายที่จะเรียนรู้หลักการของภาษา และวิธีการเขียนโปรแกรม ตลอดจนการพัฒนางานบนภาษานี้
จุดเด่นของภาษา[*]เป็นภาษาที่มีการกำหนดมาตรฐานสำหรับคอมพิวเตอร์ทุกรุ่นและระบบปฏิบัติการทุกชนิด ทำให้โครงสร้างทางภาษา ฟังก์ชั่นและไลบราลี (Library) ต่างๆ สามารถนำไปใช้ได้ทุกรุ่นและทุกระบบปฏิบัติการ[*]โปรแกรมที่เขียนออกมาจะมีขนาดเล็กและทำงานได้รวดเร็วเหมือนภาษาระดับต่ำ แต่เข้าใจง่ายเหมือนภาษาระดับสูง (ภาษาซีจัดอยู่ในภาษาระดับกลาง แต่หนังสือบางเล่มจะจัดภาษาซีอยู่ในภาษาระดับสูง แต่ผมว่าระดับกลางน่าจะเหมาะกว่า อิอิ)[*]มีโครงสร้างทางภาษาที่ดี และเครื่องหมายการดำเนินการ (Operators) มีประสิทธิภาพสูงและยืดหยุน (สังเกตุได้จาก x++,++x ที่งงกันไปพักนึง ฮ่าๆ)[*]ภาษา C สามารถเขียนเพื่อควบคุมฮาร์ดแวร์ได้ ซึ่งบางภาษามันทำไม่ได้เช่น ภาษา Basic[*]มีฟังก์ชั่นสำเร็จรูปไว้ให้เราใช้งานเยอะ!! ทำให้เราไม่ต้องเขียนเอง และหากว่า ฟังก์ชั่นที่มีมาให้มันไม่โดนใจ เราสามารถเขียนเองและเพิ่มเติมลงไปได้ หรืออาจจะแจกจ่ายให้เพื่อนๆ
ตัวอย่างภาษา c
#include#includemain(){clrscr();cout<<"My name is teeraphon suepray \n";cout<<"Nick name max \n";cout<<"age 18 year old\n";cout<<"Address 25/88 T.banggrajwo A.Mueng Samutsakon 74000\n";cout<<"Institute Samutsongkhram Technical College\n";cout<<"Section Information Technorogy\n";cout<<"Father Name\n";cout<<"suraphon suepray\n";cout<<"Mother Name\n";cout<<"siraprapa simonggam\n";getch();return 0;}
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น